คงจะต้องบอกว่าโอกาสที่เราจะได้ดู รีวิวหนัง Godzilla Minus One ในโรงหนังในประเทศไทยค่อนข้างน้อย เนื่องจากเจ้าของหนังอย่างโทโฮยังไม่มีแผนที่จะทำตลาดฉายหนังเรื่องนี้ในเอเชียเลย แต่เน้นตีตลาดฝั่งอเมริกาและยุโรปเป็นหลัก ดังนั้นบทความรีวิวนี้จึงถือโอกาสแบ่งปันประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้ไปชมหนังเรื่องนี้จากประเทศญี่ปุ่น และถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าสนใจให้แฟน ๆ หนังได้อ่านกัน
เรื่องราวของ Godzilla Minus One
“Godzilla Minus One” เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ในปี 1945 เมื่อญี่ปุ่นต้องยอมพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 สภาพบ้านเมืองในเวลานั้นเหลือเพียงเศษซาก ประหนึ่งการเซ็ตค่าประเทศใหม่ แต่ปรากฏว่าญี่ปุ่นยังต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากสัตว์ประหลาดน่าเกรงขามอย่างก็อดซิลลา ที่ปรากฏตัวขึ้นและเป็นภัยต่อผู้คนที่กำลังหาทางลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ทำให้พวกเขาต้องหาแนวทางจัดการเพื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ยักษ์ตัวนี้
การกำกับและการเขียนบท
นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “ทาคาชิ ยามาซากิ” ผู้เคยฝากผลงานการสร้างปัง ๆ อย่าง Parasyte ทั้งสองภาค และล่าสุดกับ Ghost Book โดยในเรื่องนี้เขารับหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทหนังเอง ถือว่าเป็นงานสร้างที่ค่อนข้างจัดจ้านและให้ความเคารพต้นฉบับอย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้ว่าโครงสร้างเรื่องราวในนั้นจะค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จและอยู่ในเซฟโซนทั่วไปของหนังญี่ปุ่น แต่ก็สามารถสร้างความยิ่งใหญ่ได้
ประสบการณ์การชมหนัง
สารภาพตรง ๆ ว่า “Godzilla Minus One” ที่ผู้เขียนได้ชมเป็นเวอร์ชัน Monochrome ที่มีการย้อมสีภาพเป็นหนังขาวดำ และหนังเรื่องนี้ที่ฉายในญี่ปุ่นก็ไม่มีซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษด้วย ดังนั้นประสบการณ์การดูหนังครั้งนี้ต้องยอมรับว่าเข้าใจสิ่งที่ตัวละครพูดในหนังได้ไม่ถึง 10% แต่กลับกลายเป็นว่าโครงเรื่องของหนังมีความสากลมาก ๆ ถึงจะฟังภาษาไม่เข้าใจ แต่ก็สามารถซึมซับและเข้าถึงแก่นของเรื่องได้ไม่ยากเย็นนัก
องค์ประกอบของหนัง
ในการรีวิวครั้งนี้จะไม่กล่าวถึงบทหนัง เนื่องจากความแตกต่างทางภาษา แต่จะยกประโยชน์ให้กับองค์ประกอบอื่น ๆ ของหนังที่ทำออกมาได้อย่างถึงใจและอารมณ์ ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงเต็มที่อัดแน่นไปด้วยฉากชวนตื่นตาตื่นใจและการวางแผนกลยุทธ์เชิงรบที่ทรงพลัง
การถ่ายภาพและการแสดง
การถ่ายภาพในหนังเรื่องนี้ทำได้อย่างทรงพลัง โดยเฉพาะการถ่ายทอดช่วงยุคสมัยแบบพีเรียดที่น่าจะเป็นหนึ่งในงานถนัดของช่างภาพชื่อดัง “โคโซะ ชิบาซะกิ” การแสดงของนักแสดงหลักอย่าง “เรียวโนะซึเกะ คามิกิ” ก็ถือว่ารับมือกับพาร์ทดรามาได้อย่างจัดจ้าน แม้พลังทางการแสดงของเขาจะยังไม่ถึงขั้นจัดจ้าน แต่ก็มีทีมงานนักแสดงสมทบช่วยเสริมกำลังได้ดี เช่น “มินามิ ฮามาเบะ”, “ยูกิ ยามาดะ” และ “มุเนะตะเกะ โอโอะกิ”
งานสร้างและเพลงประกอบ
งานสร้างเทคนิคพิเศษของ Godzilla Minus One สมคำร่ำลือ โดยเฉพาะงานออกแบบตัวก็อดซิลลาที่ใช้เทคนิคดั้งเดิมผนวกกับเทคนิคปัจจุบันได้อย่างลงตัว รายละเอียดของก็อดซิลลาออกมาด้วยอารมณ์ใกล้เคียงกับตัวต้นฉบับเมื่อ 70 ปีก่อน นอกจากนี้ งานเพลงประกอบของ “นาโอกิ ซาโตะ” ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำการสดุดีต้นฉบับได้อย่างชวนขนลุก โดยเฉพาะซีนไฮไลต์เด่นกลางเรื่อง ที่การหยอดท่วงทำนองของเพลงเข้าไปช่วยปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างทรงพลัง
Godzilla Minus One ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังที่สร้างมาตรฐานมาสเตอร์พีซขึ้นมาได้อีกครั้ง หลาย ๆ องค์ประกอบเป็นความสมบูรณ์แบบที่ชวนลงตัวดี เนื้อหาของหนังสอดแทรกเกร็ดประวัติศาสตร์เข้าไปอย่างมีชั้นเชิง ซ้ำยังใส่ความเป็นสากลได้อย่างน่าทึ่ง นี่คือหนังที่เข้ามาเติมเต็มความหวังในห้วงอารมณ์แห่งความสิ้นหวังอย่างน่าทึ่ง และยังเป็นการสดุดีตำนานสัตว์ประหลาดที่ให้ความเคารพได้อย่างประทับใจจริง ๆ
รับชมตัวอย่างหนัง รีวิวหนัง Godzilla Minus One
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง
- ผู้เขียนบทภาพยนตร์: ทาคาชิ ยามาซะกิ
- นักแสดงนำ: เรียวโนะซึเกะ คามิกิ, มินามิ ฮามาเบะ, ยูกิ ยามาดะ, มุเนะตะเกะ โอโอะกิ
- แนว/ประเภท: แอคชัน / ผจญภัย / ดรามา
- เรท: –
- ความยาว: 124 นาที
- ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: โทโฮ
- วันที่เข้าฉายใ
- ประเทศไทย: 1 มิถุนายน 2024 (ทาง Netflix)
ติดตามรีวิวหนัง : รีวิวหนัง
ติดตามรีวิวซีรีย์ : รีวิวซีรีย์
ติดตามรีวิวหนังการ์ตูน : หนังการ์ตูน
ติดตามรีวิวหนังจีน : รีวิวหนังจีน
ติดตามรีวิวหนังไทย : รีวิวหนังไทย
ติดตามหนังน่าดูตอนนี้ : หนังน่าดูตอนนี้