รีวิวหนัง Argylle หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือนิยายสายลับของ เอลลี คอนเวย์ (Elly Conway) นามปากกาของนักเขียนนิรนามที่ไม่มีใครรู้ว่าตัวจริงเป็นใคร จนมีทฤษฎีสมคบคิดว่านี่อาจเป็นนามปากกาของแม่ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) เอง ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นแค่นักเขียนไม่อยากออกสื่อ หรือทั้งหมดเป็นการตลาดซับซ้อน (เพราะหนังสือดันมาวางแผง 1 เดือนก่อนหนังฉายพอดี) อันนี้ก็ต้องตามดูต่อไป เพราะพี่วอห์นวางไว้ว่า ถ้าหนังออกมาปัง ก็เตรียมขยายเป็นหนังไตรภาคกันไปเลย
เรื่องราวในหนังเกี่ยวกับ เอลลี คอนเวย์ (ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด – Bryce Dallas Howard) สาวโสด Introvert เจ้าของผลงานหนังสือนิยายนักสืบที่มีความสุขกับการเขียนงาน เล่าเรื่องราวภารกิจของสายลับอาร์ไกล์ (เฮนรี คาวิลล์ – Henry Cavill) หน้าคอมพิวเตอร์ (ที่แน่นอนว่าต้องเป็น iMac) อยู่ที่บ้าน และเป็นมี้ให้กับเจ้าแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ที่มีชื่อว่า แอลฟี (ชิป – Chip) แต่ในระหว่างที่เธอเดินทางไปหาแม่ รูธ จึงต้องร่วมปฏิบัติภารกิจชิงมาสเตอร์ไฟล์ ไม่ให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของริตเตอร์
หากดูเรื่องย่อและตัวอย่าง หลายคนอาจคิดว่านี่คือหนังที่จะมาชำแหละหนังแนวนักสืบและจารกรรมต่าง ๆ ซึ่งคำตอบคือทั้งใช่และไม่ใช่ ที่บอกว่าใช่เพราะว่าช่วงแรกของหนังมันดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ชวนให้นึกถึง ‘Kick-Ass’ ที่ชำแหละหนังซูเปอร์ฮีโรแล้วใส่พล็อตเพี้ยน ๆ สไตล์ ‘Kingsman’ เข้าไป แต่พอถึงช่วงหลัง หนังค่อย ๆ แทรกมุกตลกแฟนตาซี รวมทั้งจังหวะหักมุมพลิกตลบเรื่อง ค่อย ๆ คลายปม และดึงเอาโลกของเอลลี และโลกในนิยายของอาร์ไกล์เข้ามาหากัน เพื่อจะได้ตามดูว่าทั้งสองโลกนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร
ในองก์ที่สอง ตัวหนังก็ค่อย ๆ ขยายขนาดเรื่องราวที่ตัวอย่างไม่ได้ใส่ไว้ด้วยการทวีคูณความหักมุมพลิกล็อกเรื่องไปมา เป็นวิธีการเล่าเรื่องพล็อตซ้อนพล็อตที่ยังคงขนบของการยั่วล้อจริตและ Stereotype ภาพของนักสืบและหนังนักสืบ ในขณะที่พล็อตก็ค่อย ๆ คลายปมบางอย่างออกมาทีละน้อยจนคาดเดาแทบไม่ได้ว่าเนื้อเรื่องจะไปทางไหน ยิ่งเฉลยก็ยิ่งมีแต่เรื่องเพี้ยน ๆ ชวนเหวอมากขึ้นกว่าเดิม
หากไม่นับความวุ่นวายที่ต้องมานั่งเชื่อมโยงปะติดปะต่อ แยกแยะจุดหักมุมทั้งหลายที่พลิกแล้วพลิกอีก ปั่นแล้วปั่นอีกว่าตกลงใครเป็นใคร อะไรเป็นอะไรกันแน่ ตัวหนังก็ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่ของการล้อหนังนักสืบที่ล่อหลอกปั่นหัวคนดูได้พอสมควร ซึ่งพอปะติดปะต่อได้แล้ว ถึงจะเริ่มรู้สึกบันเทิง และสนุกไปกับหนังขึ้นมาได้
อีกส่วนที่ถือว่าบันเทิงพอใช้ได้ก็คือฉากแอ็กชันที่มีไม่เยอะ แต่ก็ทำได้ดีพอสมควร มีความเท่ ความดิบ อลังการ และฉูดฉาด แม้ว่าฉากแอ็กชันจะมีจังหวะเนือยพอสมควร รวมทั้งการที่หนังถูกบล็อกไว้ที่เรต PG-13 จังหวะไหนอยากเล่นมุกโหดก็ต้องใช้มุมกล้องและตัดต่อบังสายตาเอา ทำให้ดีกรีความโหดสะใจไม่ถึงอย่างที่คาดหวัง
สิ่งหนึ่งที่ถือว่าดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ก็คือเคมีและลีลาของบรรดานักแสดง บทหลักอย่างเอลลีที่รับบทโดยไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด เหมาะสมกับการรับบทแนวนี้อยู่แล้ว รวมทั้งเคมีของเธอกับแซม ร็อกเวลล์ก็เข้ากันได้อย่างคาดไม่ถึง ที่ชอบอีกคนก็คือลุงไบรอัน แครนสตัน ที่แม้จะไม่ได้ฉายแสงเด่น แต่ก็มีจังหวะโชว์ของอยู่
ที่เรียกว่าเป็นบทสมทบจริง ๆ ก็คือพ่อหนุ่ม เฮนรี คาวิลล์ ในมาดสายลับอาร์ไกล์ ที่เหมือนผู้กำกับเอามาแกล้ง ขนาดจอห์น ซีนายังมีบทเด่นเยอะกว่า แต่ถ้าใครอยากเห็นพี่เค้าเป็น 007 ก็ถือว่าสมหวังอยู่นะ (555) อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ เจ้าชิป ที่จริง ๆ แล้วมีศักดิ์เป็นเจ้านายของคลอเดีย ชิฟเฟอร์ (Claudia Schiffer) ภรรยาของวอห์น
อย่างไรก็ตาม ฉากส่วนใหญ่ โดยเฉพาะฉากแอ็กชันที่มีเจ้าชิปร่วมผจญภัยเฉียดตาย มันเป็น CGI ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าไม่มีใครจะถ่ายด้วยการเอาแมวจริง ๆ ไปเข้าฉากแอ็กชันแบบนั้น แต่แมว CGI มันน่ารักไม่เท่าแมวจริง มันก็เลยดูขัดหูขัดตาขัดใจทาสแมวอยู่พอสมควร
สำหรับคนชอบหนังนักสืบ หนังเรื่องนี้ยังไงก็ต้องดู สำหรับคนที่ไม่อินกับความเพี้ยนของหนัง อาจจะไม่สนุก หรือไปรอดูใน Apple TV+ ทีเดียวไปเลยดีกว่า นี่อาจจะไม่ใช่หนังที่มีอะไรค้างไว้ในหัวให้จดจำได้ชัดเจนนักจากการเล่าเรื่องที่วืดวาดและพล็อตที่ใส่่ไปเรื่อย
แต่ถ้าว่ากันในฐานะหนังบันเทิง นี่คือหนังที่มีไอเดียในการแหวกและฉีกขนบ เป็นการหาวิธีใหม่ให้กับสูตรสำเร็จของหนังจารกรรมแนวนี้ได้อย่างน่าสนใจ มันไม่ได้สดใหม่กิ๊ก แต่ก็มีดีที่เนื้อเรื่องและไอเดียที่เพี้ยนไปเรื่อยแบบไม่มีสิ้นสุด ถือว่าเป็นหนังแกล้มป๊อปคอร์นที่ดูได้เพลิน ๆ ปั่นหัวได้แรงมาก และถ้ารับได้เรื่องแมว CGI ล่ะก็ใช่เลย
รับชมตัวอย่างหนัง รีวิวหนัง Argylle
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง
- ผู้เขียนบทภาพยนตร์: แดน มาโซ
- นักแสดงนำ: มิลลี บ็อบบี บราวน์, โรบิน ไรท์, แองเจลา บาสเซ็ตต์, นิค โรบินสัน
- แนว/ประเภท: แอคชัน, ผจญภัย, แฟนตาซี
- เรท: ยังไม่มีข้อมูลเรท
- ความยาว: 108 นาที
- ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Netflix
- วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 8 มีนาคม 2024
ติดตามรีวิวหนัง : รีวิวหนัง
ติดตามรีวิวซีรีย์ : รีวิวซีรีย์
ติดตามรีวิวหนังการ์ตูน : หนังการ์ตูน
ติดตามรีวิวหนังจีน : รีวิวหนังจีน
ติดตามรีวิวหนังไทย : รีวิวหนังไทย
ติดตามหนังน่าดูตอนนี้ : หนังน่าดูตอนนี้
